ระบบสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ
เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ
Smart Environment
สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) เป็นเมืองที่มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพ การเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ของการบริหารจัดการตลอดจนการติดตามเฝ้าระวัง สิ่งแวดล้อมและสภาวะแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ เช่น การดูแลสภาพอากาศ การจัดการขยะให้เป็นศูนย์ รวมถึงการสร้างสรรค์ระบบนิเวศในพื้นที่สีเขียว
แนวความคิดหลักในการออกแบบวังจันทร์วัลเลย์ คือการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ สอดคล้องผสมผสานกันเป็นหนึ่งเดียว โดยจะมีพื้นที่ Green Area และ Open Space รวมกันคิดเป็น 60% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้เกิดเป็นสำนักงานวิจัยและเขตนวัตกรรมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยั่งยืน การสร้างพื้นที่ Green Area และ Green Belt โดยใช้หลักการปลูกป่าและฟื้นฟูธรรมชาติป่าเชิงนิเวศแบบยั่งยืน ตามทฤษฎีของ ศ.ดร.อากิระ มิยาวากิ ที่เน้นการใช้พันธุ์ไม้ดั้งเดิมของพื้นที่ เพื่อให้ง่ายต่อการเจริญเติบโตและดูแลรักษา มีความหลากหลายทางพันธุ์ไม้ ทั้งไม้ยืนต้นและไม้พุ่ม มีการสร้างเนินดินเพื่อเพิ่มความพรุนของดิน ซึ่งเพิ่มการระบายน้ำและอากาศ มีการติดตั้งเซ็นเซอร์กระจายตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังและบริหารจัดการมลภาวะทางอากาศและทางน้ำ ได้แก่ CO2, O2, O3, PM 2.5, Dissolved Oxygen, Wind Speed, Rain Gauge มีโครงข่ายท่อส่งน้ำประปาและท่อรับน้ำเสียที่ฝังอยู่ใต้ดิน พร้อมติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณของแต่ละแปลงพื้นที่ ซึ่งสามารถแสดงผลแบบ Real-time รวมถึงแสดงข้อมูลย้อนหลังได้ น้ำเสียภายในโครงการเมื่อผ่านกระบวนการบำบัดแล้ว จะนำมาใช้ประโยชน์ภายในพื้นที่ทั้งหมด เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างถนน (Zero Waste Water)
สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ
Smart Environment
สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) เป็นเมืองที่มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพ การเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ของการบริหารจัดการตลอดจนการติดตามเฝ้าระวัง สิ่งแวดล้อมและสภาวะแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ เช่น การดูแลสภาพอากาศ การจัดการขยะให้เป็นศูนย์ รวมถึงการสร้างสรรค์ระบบนิเวศในพื้นที่สีเขียว
แนวความคิดหลักในการออกแบบวังจันทร์วัลเลย์ คือการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ สอดคล้องผสมผสานกันเป็นหนึ่งเดียว โดยจะมีพื้นที่ Green Area และ Open Space รวมกันคิดเป็น 60% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้เกิดเป็นสำนักงานวิจัยและเขตนวัตกรรมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยั่งยืน การสร้างพื้นที่ Green Area และ Green Belt โดยใช้หลักการปลูกป่าและฟื้นฟูธรรมชาติป่าเชิงนิเวศแบบยั่งยืน ตามทฤษฎีของ ศ.ดร.อากิระ มิยาวากิ ที่เน้นการใช้พันธุ์ไม้ดั้งเดิมของพื้นที่ เพื่อให้ง่ายต่อการเจริญเติบโตและดูแลรักษา มีความหลากหลายทางพันธุ์ไม้ ทั้งไม้ยืนต้นและไม้พุ่ม มีการสร้างเนินดินเพื่อเพิ่มความพรุนของดิน ซึ่งเพิ่มการระบายน้ำและอากาศ มีการติดตั้งเซ็นเซอร์กระจายตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังและบริหารจัดการมลภาวะทางอากาศและทางน้ำ ได้แก่ CO2, O2, O3, PM 2.5, Dissolved Oxygen, Wind Speed, Rain Gauge มีโครงข่ายท่อส่งน้ำประปาและท่อรับน้ำเสียที่ฝังอยู่ใต้ดิน พร้อมติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณของแต่ละแปลงพื้นที่ ซึ่งสามารถแสดงผลแบบ Real-time รวมถึงแสดงข้อมูลย้อนหลังได้ น้ำเสียภายในโครงการเมื่อผ่านกระบวนการบำบัดแล้ว จะนำมาใช้ประโยชน์ภายในพื้นที่ทั้งหมด เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างถนน (Zero Waste Water)